EU-Milano, Italy

Sunday 15 April 2007 (day 9/17)
รถไฟออกจากสถานี Venice เวลา 15.17 น. ถึง Milan เวลา 18.45 น. วันนี้อากาศค่อนข้างร้อนมาก เพราะไม่ได้เตรียมเสื้อแขนสั้นหรือเสื้อเนื้อบางๆ สำหรับหน้าร้อนมาด้วย ทำให้รู้สึกอึกอัดไม่สบายตัว

Check in ที่ Hotel Garda Via Napo Torriani 21-20124 Milan Tel. +39 02 669 82626 คืนละ 1,645 บาท คน/คืน

โรงแรมตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟ เดินประมาณ 200 เมตร ไปถึงโรงแรมได้สะดวกมาก หาง่ายไม่หลงทาง ห้องพักและห้องน้ำสะอาดกว้างขวางได้มาตรฐาน มี สบู่ shampoo บริการให้ลูกค้าด้วย


Dinner ที่ Milan ค่ำนี้หลังจาก Check in เสร็จแล้ว ก็นำกระเป๋าไปเก็บและพักผ่อนสักครู่ ก็ลงมาข้างล่างเพื่อไปกินอาหารที่ McDonald ใกล้ๆ โรงแรม จ่ายไป 10.80 Euro กินเสร็จก็ไม่กล้าเดินสำรวจเมือง เพราะพลเมืองดูมีหน้าตาหลายเชื้อชาติ นั่งกินเหล้า กิน Beer กันเต็มหน้าสถานีรถไฟ พวกเค้ากินเสร็จก็โยนกระป๋องเปล่าไว้เต็มสนามหญ้า เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปเอาไว้เป็นหลักฐาน เมื่อพิจารณาแล้วดูไม่น่าไว้ใจในความปลอดภัย ก็เลยต้องขึ้นไปพักผ่อนบนห้องเป็นดีที่สุด

Hotel มีบริการ internet wireless คิด ชม. ละ 2 Euro ก็เลยได้ใช้บริการส่งข่าวไปหาหนุ่ม (อาทินันท์) ที่ Netherland ให้โทรมาหาวันรุ่งขึ้น 

เนื่องจากเพิ่งจะเริ่มเข้าฤดูร้อน แต่ทางโรงแรมไม่สามารถเปิด Air condition ให้เราได้ เพราะเค้าจะเริ่มเปิดเมื่อถึงเดือน June เท่านั้น ทำให้เรารู้สึกร้อนและหงุดหงิดเล็กน้อย แต่อาบน้ำเสร็จนั่งเฉยๆ ไปสักพักอากาศข้างนอกก็เย็นลงกว่าตอนค่ำมากเมื่อเข้านอนก็หลับสบายไปอีกหนึ่งคืน

Monday 16 April 2007, (day 10/17)
Breakfast ที่โรงแรมประมาณ 08.00 น. อาหารก็เหมือนเดิมๆ จะแตกต่างกันก็ตรงคุณภาพ และ ปริมาณ คือมี ขนมปังหลายชนิด แต่ก็ไม่ค่อยน่ากินสักเท่าไร มีเนย Jam Cereal นม Yogurt, Tea, Coffee หรือสั่ง Cappuccino ก็ได้ กินอาหารเช้าเสร็จ และทำธุระส่วนตัวแล้ว เราก็ Check out และเอากระเป๋าลงมาฝากไว้ที่โรงแรมไว้ก่อน เพื่อนออกไปเที่ยวชมเมือง Milan

บริเวณที่เราพักอยู่ ที่จริงมันก็สงบดี แต่ไม่ค่อยน่าอยู่และไม่มีอะไรน่าดูเท่าไร พวกกเราทุกคนก็เลยตัดสินใจเป็นเอกฉันท์ที่จะเปลี่ยนเวลาเดินทางออกจาก Milan ให้เร็วขึ้น จากเดิมออกเวลา 17.05 น. เปลี่ยนเป็นเวลา 14.25 น. ซึ่งเราตกลงที่จะยอมจ่ายค่าเปลี่ยนเวลาคนละ 5 Euro เราเปลี่ยนได้ตั๋วเรียบร้อย

พวกเราเดินไปใช้บริการรถไฟ underground คนละ 1 Euro และที่ในสถานี underground ที่นี่เอง เราได้พบผู้หญิงดูหน้าตาเหมือนพวก Egypsy คนหนึ่งมีท่าทางแปลกๆ พยายามเข้ามาจะช่วยเหลือเราในการที่จะหยอดเงินเพื่อซื้อตั๋วรถไฟ ระหว่างที่ผู้หญิง Egypsy ยังพูดให้เราฟังไม่จบ ก็มีผู้ชายชาว Milan เดินผ่านมา และพูดขึ้นว่า อย่าไปฟังพวกเค้า พวกเค้าจะหลอกเอา เราก็รู้สึกเออน่าจะจริง ก็เลยเดินออกมาจากตู้ตั๋วหยอดเงินนั้น และไปซื้อตั๋วที่ใน booth ที่มีคนขายตั๋วแทน

เราได้ไปชม Duomo สวยงามจริงๆ ดังที่หนังสือได้กล่าวเอาไว้ แต่ช่วงที่เราไป เค้ากำลังบำรุงซ่อมแซมด้านหน้าอยู่ ทำให้เราไม่สามารถถ่ายรูป Duomo แบบเต็มๆ ได้ เพราะจะไม่สวยแก็เลยได้ภาพมาเฉพาะครึ่งบนอย่างที่เห็น อยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ลอง click ที่นี่ เข้าไปที่ website นี่ได้ http://en.wikipedia.org/wiki/Duomo_di_Milano


Duomo ขนาดยักษ์ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง Milan เป็นหนึ่งในโบสถ์สไตล์โกธิกที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีความยาว 157 เมตร (514 ฟุต) และจุดที่กว้างที่สุดคือ 92 เมตร (301 ฟุต)

หลังคาที่ไม่ธรรมดา มียอดแหลม 135 ยอด และรูปปั้น รางน้ำฝน (gargoyles การ์กอยล์) จำนวนที่นับไม่ถ้วน และถ้าวันที่อากาศแจ่มใส จะสามารถเห็นทิวทัศน์ไปถึงเทือกเขาแอลป์ได้ด้วย

(Duomo: Situated at the heart of Milan the giant Duomo is one of the largest Gothic churches in the wolrd at 157 m (514ft) long and at its widest point 92 m (301 ft) across. 

The extraordinary roof, with 135 spires and innumerable statues and gargoyles. and on a clear day,there are far reaching views to the Alps.)
เราไป Milan ปีนี้ ถ่ายรูปด้านหน้ามาเต็มๆ ไม่ได้ เพราะด้านหน้าของ Duomo กำลังซ่อมแซม ทำให้เราเก็บภาพด้านหน้ามาไม่ได้ทั้งหมด  ถ่ายได้แบบครึ่งบนเพียงครึ่งเดียว น่าเสียดายจริงๆ เข้าไปข้างในได้นิดหน่อย ยังถ่ายรูป กระจกสีที่สวยมากๆ ภายในโบสถ์ได้บ้าง
 
 
.พื้นใน Duomo ปูด้วยหินอ่อนที่เป็นลายแบบโบราณ

ภายใน Duomo ทางเดินถูกแบ่งด้วยเสาขนาดยักษ์ 52 ต้น และมีแสงสว่างมาจากทุกด้านด้วยกระจกสีอันน่าทึ่ง
Inside Duomo, the aisles are divided by 52 giant pillars and lit from all sides by remarkable stained glass.
อนุสาวรีย์ ด้านหน้า Duomo
ลานกว้างด้านหน้า Duomo และ The Galleria Vittorio Emanuele II

The Galleria Vittorio Emanuele II ตั้งอยู่ด้านซ้ายของ Duomo
ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายของ The Gothic Duomo, Milan ศูนย์การค้าแห่งนี้รู้จักกันในชื่อว่า ห้องวาดรูปของ Milan ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิก Giuseppe Mengoni ในปี ค.ศ.1865 อย่างไรก็ตาม แกลเลอเรียมีจุดเริ่มต้นที่น่าเศร้า เมื่อ Mengoni ตกลงมาจากนั่งร้านจนถึงแก่ความตาย ไม่นานก่อนที่จะมีการเปิดตัว  ของอาร์เคดแห่งนี้ในปี ค.ศ.1877 (หนึ่งปีก่อนที่อาร์เคดจะเสร็จเรีบร้อย)

อย่างไรก็ตามร้านค้า ร้านกาแฟ และร้านเอาหารที่มีสไตล์ดึงดูดใจนักท่องเที่ยว ซึ่งรวมถึงร้าน II Salotto ที่กล่าวกันว่าให้บริการกาแฟที่ดีที่สุดใน Milan ในพื้นที่แกลเลอเรียเองมีผังพื้นที่เป็นรูปไม้กางเขนแบบลาติน โดยมีทางเข้าแปดเหลี่ยมประดับด้วยกระเบื้องโมเสกซึ่งเป็นตัวแทนของทวีปทั้ง 4 (ยุโรป อเมริกา แอฟริกา และเอชีย) รวมถึงทวีปอื่นๆ ที่แสดงถึงศิลปะ เกษตรกรรม วิทยาศาสตร์ และ อุตสาหกรรม คุณสมบัติที่ดีที่สุด คือเป็นหลังคาโลหะและกระจก ประดับด้วยโดมอันงดงาม

(The Galleria Vittorio Emanuele II ตั้งอยู่ด้านซ้ายของ Duomo

The Galleria Vittorio Emanuele II on the left side of The Gothic Duomo, Milan. This ornate shopping arcade, known as il Salotto di Milano (Miland's drawing room), was designed by the architect Giuseppe Mengoni in 1865.The galleria had a tragic start, however, as Mengoni fell to his death from the scaffolding not long before its inauguration in 1877 ( a year before the arcade was actually finished).

Tourists are nevertheless attracted to its stylish shops, cafes and restaurants, which include II Salotto, said to serve the finest coffee in all Milan. The Galleria itself has a floor plan in the shape of a Latin cross, with an octagonal entre adorned with mosaics representing four continents (Europe, America, Africa and Asia), together with others representing Art, Agriculture, Science and Industry. Its finest feature is its metal and glass roof, crowned with a magnificent central dome.)
The Galleria Vittorio Emanuele II
(แกลเลอเรีย วิตโตรีโอ เอมานูเอเล II)
Inside The Galleria Vittorio Emanuele II

หลังคาของ The Galleria Vittorio Emanuele II เป็นโครงสร้างแรกในอิตาลีที่ใช้โลหะและกระจกเป็นเชิงโครงสร้างมากกว่าเป็นการตกแต่ง
(The roof was the first structure in Italy to use metal and glass in a structural way rather than just decoratively)
ลวดลายบนหลังคาและกระจกใน The Galleria Vittorio Emanuele II
 
Inside The Galleria Vittorio Emanuele II

พื้นห้องประดับด้วยกระเบื้องโมเสก เป็นรูปสัญลักษณ์จักรราศี นักท่องเที่ยวอาจเห็นการเหยียบอัวยวะเพศของวัวพฤษภ เพื่อนำความโชคดีมาให้
(The floors are decorated with mosaics of the signs of the zodiac, tourist may be seen stepping on the genitals of Taurus the Bull, in order to bring good luck.)
ลวดลายของพื้น สวยงามมาก

ปราสาท Castello Sforzesco: ปราสาทที่สร้างขึ้นแทนที่วังเรอเนซองส์แห่งนี้ เป็นพระราชวังที่ผสมผสานภายนอก ที่ต้องห้ามเข้ากับการตกแต่ภายในที่สวยงาม สถานที่นี้รวมถึงส่วนต่าง เกี่ยวกับศิลปะประยุกต์ โบราณคดี และเหรียญกษาปณ์ คอลเลกชี่นเครื่องเรียน โบราณวัตถุ และภาพวาดชั้นเลิศ รวมถึงประติมากรรมที่ยังสร้างไม่เสร็จของ Michelangelo ซึ่งรู้จักกันในชื่อของ Rondanini Pieta

(Castello Sforzesco: The castle built in its place this Renaissance palace, which combines a forbidding exterior with a delightful interior. The place now contains, together with sections on Applied Arts, Archaeology and Coins, the Civiche Raccolte d'Arte Antica. The fine collection of furniture, antiquities and paintings includes Michelangelo's unfinished sculpture, known as the Rondanini Pieta.) 
เดินตามถนนเส้นนี้มุ่งตรงไปยัง Sforzesco castle
น้ำพุ ด้านหน้า Sforzesco castle มาเดินดูแค่รอบๆ ปราสาท ไม่ได้เข้าไป อากาศร้อนมาก หน้าดำกันทุกคน
 


Lunch ที่ Milan เราเดินเที่ยวถ่ายรูปกันเกือบเที่ยงก็เดินกลับมาใกล้ๆ ที่พักเพื่อกินอาหาร เป็นร้านแบบ Food court self service มีอาหารหลากหลาย จัดเอาไว้น่ากินทุกอย่าง มีสลัด ผลไม้ soup อาหารคาว หวาน มีที่ให้นั่งกว้างขวาง กิน Ham อบเป็นอาหารหลัก 1 อย่าง และ side order คือมะเขือม่วง ทอดอีก 1 จาน น้ำ 1 ขวด จ่ายไป 8.90 Euro

เราเดินกลับไปที่โรงแรมซึ่งอยู่ไม่ไกล ทำธุระส่วนตัวเสร็จและเอากระเป๋าที่ฝากไว้ ก็เดินไปสถานนีรถไฟ Milan เตรียมตัวเดินทางไป Brig-Zermatt รถไฟจะออกจากสถานี 14.25 น.

หน้าสถานีรถไฟ Milan-Italy, 16 April 2007

ในสถานีรถไฟ Milan-Italy, 16 April 2007

เราเปลี่ยนแผนและเดินทางออกจาก Milan เร็วขึ้นประมาณ 3 ชม. เพื่อเดินทางข้ามประเทศไปเมือง Zermatt ประเทศ Switzerland และจะพักที่นี่ 2 คืน.....
มีต่อ .......... Zermatt/Switzerland

No comments: