THA/Satoon / Lepea Island (เกาะหลีเป๊ะ) 2007

20 February 2007 
BKK-Had Yai (หาดใหญ่)-Satoon (สตูล)-Lepea Island (เกาะหลีเป๊ะ)
คณะเรา มี พิทักษ์ หน่อย โน้ต ยุ้ย แขก Andy Pim และ Emily เพื่อนของ Pim เราเดินทางจากกรุงเทพถึงอ. หาดใหญ่ จ. สงขลา โดยสายการบินนกแอร์ ค่าตั๋วเครื่องบินคนละประมาณ 3พันกว่าบาท เมื่อถึงที่สนามบิน รถตู้มารับพวกเราไปส่งที่จังหวัดสตูล ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชม. เพื่อไปขึ้นเรือ Speed Boat และเดินทางต่อไปยังเกาะหลีเป๊ะเป็นจุดหมายแรก
แต่ถ้าเดินทางโดยรถยนต์ จากกรุงเทพมหานครไปตามทางหลวง ผ่านประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร-สุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช-ตรัง-พัทลุง-สงขลา รวมระยะทาง 950 กม.
อาณาเขตจังหวัดสงขลา ครอบคลุมพื้นที่ 7,394 ตร.กม. ประกอบด้วย 16 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.ระโนด อ.กระแสสินธุ์ อ.สทิงพระ อ.สิงหนคร อ.ควนเนียง อ.รัตภูมิ อ.บางกล่ำ อ.หาดใหญ่ อ.นาหม่อม อ.จะนะ อ.เทพา อ.นาทวี อ.สะบ้าย้อย อ.สะเดา และกิ่งอำเภอคลองหอยโข่ง

เมืองหาดใหญ่ อยู่ห่างจากอำเภอเมืองประมาณ 28 กม.เป็นศูนย์กลางทางค้าและธุรกิจของภาค ใต้ เป็นทางผ่านไปยังประเทศเพื่อนบ้าน คือ มาเลเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งห่างจากด่านสะเดา เพียง 60 กม. มีร้านค้าขายของต่างๆ มากมายให้เราเดินชมสินค้าต่างๆ โดยตั้งต้นจากย่านกลางใจเมือง เช่น ถนนนิพัทธ์อุทิศ 1, 2 หรือ 3 แล้ว ก็จะพบสินค้าแปลกๆ ใหม่ๆ ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ศูนย์การค้ามีหลายแห่งคือ ศูนย์การค้าลิโด ศูนย์ การค้าโอเดียน ถนนเสน่หานุสรณ์ ศูนย์การค้าหาดใหญ่พลาซ่า และตลาดซีกิมหยง ถนนเพชรเกษม ซึ่งย่านการค้าเหล่านี้อยู่ในบริเวณใจกลางเมืองที่สามารถเดินไปถึงกันได้อย่างสะดวก
จ.สตูลเป็นจังหวัดเล็กๆ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ ของประเทศไทยมีประชากร เป็นชาวไทยมุสลิม ถึงร้อยละ 80 เป็นจังหวัดที่ติดชายฝั่งทะเลด้านตะวันตก คือชายทะเลอันดามันในมหาสมุทรอินเดีย
จ.สตูลอยู่ห่างจากกรุงเทพฯโดยทางรถยนต์ประมาณ 973 กม. มีพื้นที่ 2,478 ตร.กม. มีชายฝั่งทะเลยาว 80 กม. สภาพภูมิประเทศโดยทั่วไป เป็นเนินสูงมีที่ราบป่าเขาห้วยลำธาร ในเขตภาคตะวันออกของจังหวัด ตอนกลางใกล้ชายทะเลเป็นที่ราบ มีภูเขาและที่ราบลุ่ม ส่วนชายฝั่งทะเลเป็นที่ราบและป่าชายเลนน้ำท่วมถึง มีป่าโกงกางและไม้แสมมาก นอกจากนี้ในเขตจังหวัดสตูลยังมีหมู่เกาะต่างๆ ในทะเลอันดามันอีกกว่าร้อยเกาะ เช่น หมู่เกาะตง หมู่เกาะตะรุเตา เกาะเภตรา เกาะสาหร่าย เป็นต้น

ท่าเรือปากบารา อยู่ห่างจาก อ.ละงูประมาณ 8 กม. ตั้งอยู่ที่ปากคลองละงู ต.ปากน้ำ อ. ละงู เป็นท่าเรือที่อยู่ใกล้เกาะตะรุเตามากที่สุด ระยะทางประมาณ 22 กม. และเป็นที่ตั้งของศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ที่บริเวณท่าเรือปากบาราด้วย
เกาะไข่อยู่ระหว่างเกาะตะรุเตากับเกาะอาดัง-ราวี ห่างจากเกาะตะรุเตาประมาณ 15 กม. เรือโดยสารที่มาจากท่าเรือปากบารา-เกาะตะรุเตา-เกาะหลีเป๊ะ เรือโดยสารจะแล่นผ่านเกาะนี้ไปโดยไม่จอดให้ลงไปชมความงาม
เกาะไข่เป็นเกาะที่อยู่ตรงกลาง แม้จะเป็นเกาะเล็กๆแต่เป็นเกาะที่สวยไม่เหมือนใคร มีซุ้มประตูหินธรรมชาติขนาดใหญ่ ที่มีรูกว้างตรงกลางขนาดเดินไปยืนเรียงกันได้หลายคน ที่มาของชื่อเกาะนี้มาจาดทรายที่ขาวสะอาดประดุจเปลือกไข่ไก่ และที่หาดทรายนี้เองที่เต่าทะเลมักจะขึ้นมาวางไข่ อย่างไรก็ตาม ทางอุทยานฯตะรุเตาไม่อนุญาตให้ค้างแรมบนเกาะ อีกทั้งยังไม่มีแหล่งน้ำจืดบนเกาะด้วย ใกล้ๆกับเกาะไข่คือเกาะกลาง เกาะใหญ่แต่ไร้หาด มีแต่ป่าปกคลุม เหตุที่ชื่อเกาะกลาง เพราะเป็นเกาะที่อยู่ตรงกลางระหว่างเการตะรุเตาและเกาะอาดัง-ราวี
เกาะหลีเป๊ะ เป็นหนึ่งในหลายๆ เกาะของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา ตั้งอยู่สุดเขตแดนใต้ อยู่ในกลุ่มของหมู่เกาะอาดัง - ราวี ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะตะรุเตา ห่างเกาะตะรุเตา 45 กม. ห่างจากฝั่งท่าเรือปากบารา 62 กม. อยู่ใกล้ๆ กับเกาะอาดัง ห่างกันเพียง 1. 7 กม.

ลักษณะของเกาะ ความยาวหัวถึงท้ายเกาะ 3 กม. กว้างสุด 1.75 กม. เกาะหลีเป๊ะนี้ถึงแม้จะอยู่ในเขตอุทยานฯ แต่ว่าพื้นที่ทั้งหมดเป็นของชาวบ้าน ซึ่งอยู่อาศัยบนเกาะมาเป็นร้อยกว่าปี ก่อนประกาศจัดตั้งอุทยานแห่งชาติ ดังนั้นการจัดการพื้นที่บนเกาะจึงอยู่นอกเหนืออำนาจของอุทยาน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของชุมชนบริการจัดการ โดยอุทยานแห่งชาติคอยดูแลความเรียบร้อยและความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว จุดเด่นของ หลีเป๊ะ คือความสวยงามของชายหาด เกาะหลีเป๊ะ มีหาด 2 หาดคือหาดพัทยา 2 และหาดหลังเกาะฝั่งอาดัง

ถ้าเดินทางด้วยเรือไม้ลำใหญ่จากท่าเรือปากบารา จะใช้เวลาประมาณ 2 - 3 ชม. ระหว่างเส้นทาง ผ่านเกาะตะรุเตา เกาะกลาง-เกาะไข่ และเกาะอาดัง ที่อยู่ใกล้กันการขึ้นเกาะ จำเป็นต้องใช้บริการเรือหางยาวเป็นเรือขนาดเล็กของชาวบ้านที่มารอรับนักท่องเที่ยวไปยังหาดต่างๆ เรือหนึ่งลำอาจบรรทุกผู้โดยสารได้ประมาณ 10 -15 คน เราควรจะต้องถามเค้าว่าลำไหนมาจากโรงแรมที่เราจะไปพักเพราะราคาที่ที่พักนี้รวมค่ารับส่งขึ้นเรือด้วย และเราจะได้ไม่ต้องจ่ายค่าเรืออีก ซึ่งเค้าบอกว่าเราอาจจะสามารถสังเกตุได้ว่า เรือเล็กที่มารอรับนักท่องเที่ยว จะติดธงสีฟ้าที่ตัวเรือ และคนเรือจะใส่เสื้อสีเหลือง เป็นสัญลักษณ์ว่า สามารถพานักท่องเที่ยวตระเวนตามหาดต่างๆ ได้ ส่วนเรือที่ไม่มีธงฟ้า อาจเป็นเรือจากรีสอร์ท และร้านค้าต่างๆ มารอรับของจากฝั่ง หรือเป็นการจองเรือล่วงหน้าของนักท่องเที่ยวแล้ว ส่วนเรือหางยาวทั่วๆ ไปเค้าจะตระเวนรับและส่งผู้โดยสารในทุกอ่าวของเกาะ คิดอัตราค่าโดยสาร คนละ 50 บาท และ 100 บาท สำหรับท่านที่ต้องเดินทางอ้อมเกาะ(เช่น จากหน้าเกาะ ไปหลังเกาะ)

เราพักที่ วารินทร์บีช รีสอร์ท ตั้งอยู่ริมหาดพัทยา เกาะหลีเป๊ะ เป็นเกาะเล็กๆเกาะหนึ่งในหมู่เกาะใต้สุดของทะเลอันดามันเขตประเทศไทยเกาะหลีเป๊ะได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน Unseen in Thailand ที่ได้รับขนานนามว่า "มัลดีฟเมืองไทย" เป็นเกาะเล็กๆที่มีหาดทรายขาวเหมือนแป้ง น้ำทะเลใสเหมือนกระจกมองเห็นพื้นทะเลได้ลึกเกือบสองเมตร พื้นที่เกาะไม่มาก เดินเล่นได้รอบ วารินทร์บีช รีสอร์ท มี ร้านอาหาร มินิบาร์ มินิช๊อป อินเตอร์เน็ต ยังมีมีให้เช่าเรือหางยาวออกไปดำน้ำตื้น ดูปะการังและฝูงปลาหลากสี ชมเกาะต่างๆ เช่าเรือ คายัค เรือตกปลาพร้อมคนขับชำนาญเส้นทาง และเช่าอุปกรณ์ดำน้ำ
ราคาค่าที่พัก

หาดหลังเกาะหลีเป๊ะ น้ำทะเลสะอาดใสแจ๋วเป็นสีเขียวมรกต

หาดหลังเกาะด้านนี้ ต้องระวังเรื่อง Tsunami ด้วย ฉะนั้นเวลาไปเที่ยวเกาะ ก็ต้องคอยสังเกตุดูป้ายที่เค้าจะมีไว้บอกทิศทางหลบภัยถ้าเกิด Tsunami ให้วิ่งขึ้นไปเขาให้เร็วที่สุด เหมือนกับเวลาเราไปพักโรงแรมต่างจังหวัดที่เราไม่คุ้นเคยก็ต้องสังเกตุบันหนีไฟทำนองนั้น

เราพักอยู่ที่ วาริน Resort ซึ่งอยู่ด้านหาดพัทยา 2 และเราก็เดินลัดป่าข้ามเขามาอีกด้านหนึ่งก็ Mountain Resort http://www.mountainresortlipe.com/ ซึ่งตั้งอยู่หาดทราย ที่สวยมากๆ มีร้านอาหาร และ Resort พวกเรานั่งพักเหนื่อยดื่มชากาแฟ และนั่งกินลมชมวิวกันจนเต็มอิ่ม
หาดทรายหน้า Mountain Resort
หาดทราย และบันไดทางขึ้น Mountain Resort เกาะหลีเป๊ะ




บริเวณระเบียงที่กินอาหาร จิบชา กาแฟ สำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยว ให้นั่งพักผ่อนชื่นชมกับทิวทัศน์อันสวยงาม
พวกเรานั่งจิบชา กาแฟ กินลม ชมวิวกันที่นี่จนเป็นที่พอใจแล้วก็เดินกลับสู่ที่พัก Varin Resort ซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่งของเกาะหลีเป๊ะ
พรุ่งนี้เตรียมตัวนั่งเรือเล็กออกไป snorkel ดูปะการัง น้ำตื้น ที่อ่าวจาบัง เกาะหินงาม และเกาะราวี......
มีต่อ .......... วันที่ 2/4 พรุ่งนี้ไป snorkelling ที่อ่าวจาบัง

No comments: