THA/Satoon-Tarutao Island (เกาะตะรุเตา) 2007

23 February 2007
อุทยานแห่งชาติตะรุเตาได้รับการยกย่องจากองค์การ UNESCO ให้เป็นมรดกแห่ง อาเซี่ยนเรียกว่า ASEAN Heritage Parks and Reserves หรือ อุทยานมรดกของอาเซียน เมื่อปี พ.ศ. 2525 ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติทั้งบนบกและในทะเล
คำว่า “ตะรุเตา” เป็นคำที่พูดเพี้ยนมาจากคำว่า “ตะโละเตรา” ซึ่งเป็นภาษามลายูแปลว่า มีอ่าวมาก
อุทยานแห่งชาติตะรุเตาตั้งอยู่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง ประกอบไปด้วยหมู่เกาะน้อยใหญ่ จำนวน 51 เกาะ ได้ประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2517 ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 8 ของประเทศ

ปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 16 พค. - 15 พย. ของทุกปี
เปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 16 พย. - 15 พค. ของทุกปี
เกาะตะรุเตาเป็นเกาะใหญ่ที่สุดของอุทยาน มีพื้นที่ 152 ตร.กม. สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาที่มีสภาพเป็นป่าดิบชื้น ซึ่งยังมีพรรณไม้และ สัตว์ป่าที่น่าสนใจจำนวนไม่น้อย และมีพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นป่าชายเลน นอกจากนี้ยังมีอ่าวน้อยใหญ่ที่มีชายหาดสวยงามอยู่หลายแห่ง และในท้องทะเลของเกาะตะรุเตายังมีพันธุ์ปลมากมายหลายชนิดรวมทั้งเต่าทะเล ที่ใกล้สูญพันธุ์
สถานที่ท่องเที่ยวเกาะตะรุเตา
อ่าวพันเตมะละกา มีชายหาดยาวขาวสะอาด เป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติตะรุเตา และศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งส่วนหนึ่งจัดเป็นนิทรรศการแสดงเรื่องของธรรมชาติและประวัติศาสตร์ของเกาะตะรุเตา อ่าวพันเตมะละกายังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม และจากอ่าวพันเตมะละกา ยังสามารถเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวผาโต๊ะบู ได้อีกด้วย
อ่าวจาก เป็นอ่าวเล็กๆติดต่อกับอ่าวพันเตมะละกา
อ่าวเมาะและ มีหาดทรายขาวสะอาด และดงมะพร้าวสวยงาม
อ่าวสน ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 8 กิโลเมตร ตั่งอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะตะลุเตา เป็นอ่าวรูปโค้งที่มีหาดทรายสลับกับหาดหิน และเป็นที่วางไข่ของเต่าทะเล
อ่าวตะโละวาว อยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะ เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ที่ ตต.1 (ตะโละวาว) พื้นที่ประวัติศาสตร์แห่งนี้เคยเป็นสถานที่ตั้งนิคมฝึกอาชีพสำหรับนักโทษกักกันและนักโทษอุกฉกรรจ์ ปัจจุบัน ทางอุทยานฯได้จำลองอาคารสถานที่ที่เคยอยู่ในนิคมฝึกอาชีพ เช่น บ้านพักของผู้คุม เรือนนอนของนักโทษ โรงฝึกอาชีพ ไว้ในบริเวณดังกล่าวอ่าวตะโละอุดัง อยู่ทางทิศใต้ของเกาะ ห่างจากเกาะลังกาวี 8 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานฯที่ ตต.2 (ตะโละอุดัง) อดีตเป็นที่กักกันนักโทษการเมือง ซึ่งเป็นกลุ่มนักโทษจากเหตุการณ์กบฏบวรเดช และกบฏนายสิบ
น้ำตกลูดู เป็นน้ำตกขนาดเล็กที่มีความสวยงามและเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติอยู่ห่างจากอ่าวสน ประมาณ 3 กิโลเมตร
ถ้ำจระเข้ เป็นถ้ำที่มีความลึกประมาณ 300 เมตร ภายในมีหินงอกหินย้อยสวยงามและมีลักษณะแตกต่างกันไป การเดินทางไปถ้ำจระเข้ต้องนั่งเรือหางยาวไปตามคลองพันเตมะละกา ซึ่งอุดมไปด้วย ป่าชายเลนที่มีไม้โกงกางจำนวนมากตลอดสองฝั่งคลองโดยใช้เวลาล่องเรือประมาณ 15 นาทีและใช้เวลา ชมถ้ำประมาณหนึ่งชั่วโมง ติดต่อได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของอุทยานฯ ผู้ที่จะเที่ยวชมภายในตัวถ้ำควรนำไฟฉายไปด้วย

ที่เกาะตะรุเตา นักท่องเที่ยวควรระวังและศึกษาทางสำหรับหนึภัยของคลื่นยักษ์ Tsunami ไว้ด้วยก็จะดี 
แผนผังบ้านพักบนเกาะตะรุเตา เราจองบ้านพักแบบบ้านตะแบกไว้ 2 หลัง เลขที่ 18 สภาพบ้านก็พอใช้ได้ พื้นห้องมีทรายแยะไปหน่อย ขาดการดูแลเรื่องความสะอาด ไม่มีเครื่องปรับอากาศ ถ้าไม่มีลมอากาศจะร้อนมาก และกลางคืนและเวลา 5 ทุ่ม เค้าจะดับไฟทั้งเกาะ จะเปิดเอาไว้แต่จุดที่จำเป็นเท่านั้น บนเกาะจะมืดสนิท แทบจะเดินชนกัน ถ้าไม่มีไฟฉาย และเมื่อออกมาเดินเล่นนอกบ้าน และแหงนหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้า จะเห็นดาวส่องแสงระยิบระยับนับล้านดวงอย่างชัดเจน ซึ่งไม่เคยเห็นที่ไหนแบบนี้มาก่อน เป็นภาพที่น่าประทับใจมาก

ยานพาหนะรถ 6 ล้อ ที่เจ้าหน้าที่อุทยานจัดหามาให้พวกเราเช่า ไปเที่ยวอ่าวสน ไม่มีหลังคา โชคดีฝนไม่ตกและแดดไม่จัดมากนักแต่ก็ต้องใส่หมวกกันทุกคน และอาศัยร่มไม้จากข้างทางบ้างเป็นระยะ ทรมานบันเทิงดีเหมือนกัน


เกาะตะรุเตายังมีประวัติศาสตร์ที่น่ารู้คือในปี พ.ศ. 2479 รัฐบาลมีนโยบายให้กรมราชทัณฑ์จัดหาสถานที่เพื่อจัดตั้งนิคมฝึกอาชีพ และเป็นสถานที่กักกัน นักโทษ เกาะตะรุเตาซึ่งอยู่ห่างไกลจากฝั่ง เต็มไปด้วยปัจจัยทางธรรมชาติที่เป็นอุปสรรคต่อการหลบหนี ก็ได้ถูกกำหนดให้เป็นสถานที่จัดตั้งนิคมดังกล่าว มีการจัดสร้างอาคารที่ทำการ บ้านพักของผู้คุม เรือนนอนนักโทษ และโรงฝึกอาชีพขึ้นที่อ่าวตะโละวาว และอ่าวตะโละอุดัง ในปี พ.ศ.2481 


ในอดีตนักโทษชุดแรกจำนวน 500 คนก็ได้เดินทางมายังตะรุเตา และถูกนำเข้ามาอีกเรื่อยๆ จนกระทั่งในช่วงปี พ.ศ. 2482 รัฐบาลได้ส่งนักโทษการเมืองอีก 70 คน ซึ่งเป็นกลุ่มนักโทษจากเหตุการณ์กบฏบวรเดชและกบฏนายสิบ มากักบริเวณอยู่ที่อ่าวตะโละอุดัง
ในปี พ.ศ.2484 สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่อุบัติขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อนิคมฝึกอาชีพตะรุเตา เนื่องจากเกิดภาวะขาดแคลนอาหาร และยารักษาโรค นักโทษเจ็บป่วยล้มตายลงเป็นจำนวนมาก ผู้คุมและนักโทษจำนวนหนึ่งจึงได้ออกปล้นสะดมเรือสินค้าที่ผ่านไปมาในน่านน้ำบริเวณ ช่องแคบมะละกา จนทำให้เรือสินค้าไม่กล้าล่องเรือผ่านมาในบริเวณนั้น

ในปี พ.ศ.2489 รัฐบาลอังกฤษซึ่งปกครองมลายูอยู่ในขณะนั้นได้ขออนุญาตจากรัฐบาลไทยในการ ส่งกองกำลังเข้าปราบปรามโจรสลัดตะรุเตาจนสำเร็จ ต่อมากรมราชทัณฑ์ได้ประกาศยกเลิกนิคมฝึกอาชีพตะรุเตา และหลังจากนั้นเกาะตะรุเตาก็ถูกทิ้งร้างเป็นเวลา 26 ปี
จนกระทั่งวันที่ 19 เมษายน พ.ศ.2517 กรมป่าไม้ได้ประกาศจัดตั้งอุทยานแห่งชาติตะรุเตาขึ้น โดยนับเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกของประเทศไทย
อ่าวสนตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะตะลุเตา







ค่าเช่า 500 บาท สำหรับยานพาหนะ 6 ล้อ ที่ทางอุทยานจัดหาให้ และนำเราไปชมอ่าวสน
พระอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า ที่หน้าบ้านพักอ่าวพันเตมะละกา เกาะตะรุเตา ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกค่อนไปทางปลายด้านเหนือของเกาะ




แสงสวยงามของพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าที่เกาะตะรุเตา

มีต่อ .......... วันที่ 4/4 พรุ่งนี้ไปเที่ยวถ้ำจระเข้ แล้วเดินทางกลับไปท่าเรือที่สตูล

No comments: